ทราบหรือไม่ “พะโล้”กับคำว่า”เซ็งเป็ด” เกี่ยวกันอย่างไร

เอ่ยชื่อ”พะโล้”คุณจะนึกถึงอะไร?
: คนอ้วน
โถ่!! ไม่ใช่พะโล้แบบนั้น 555
พะโล้ที่ผมกำลังพูดถึงคือ ต้มพะโล้ อาหารที่มีน้ำสีเข้ม ๆ หวาน ๆ เค็มนิด ๆ หอมกรุ่นเครื่องเทศ..
พะโล้ เป็นเมนูประจำครัวไทยอีกเมนูหนึ่งที่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี
ถ้าแบบพื้นฐานก็เมนูหมูพะโล้หรือไข่พะโล้ แอดวานซ์หน่อยก็เป็ดพะโล้ ห่านพะโล้
..
สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงวันนี้ไม่ใช่วิธีทำพะโล้ให้อร่อย เพราะเป็นเรื่องที่ผมบอกตามตรงว่าไม่ถนัดเอาเสียเลย🤤
แต่เรื่องที่กำลังจะนำมาเล่าวันนี้ มันคือเรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่าง..
“พะโล้ กับ คำว่า เซ็งเป็ด”
..
คำสองคำที่ดูเหมือนจะคนละเรื่องเลยแต่มันดันมีที่มาเกี่ยวข้องกันได้…🤔
ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักทั้งสองคำ
ในความหมายตามพจนานุกรม
พะโล้ หมายถึง อาหารแบบจีนชนิดหนึ่ง ใช้ลูกโป๊ยกั้ก อบเชย และเครื่องเทศอื่น ๆ ตำเคล้าคลุกกับเป็ดหรือห่านเป็นต้นให้เข้ากันดี และเคี่ยวจนน้ำแห้ง, ถ้าทำอย่างไทยใช้น้ำตาลปีบเคี่ยวกับซีอิ๊วและน้ำปลา มีรสหวานเค็ม เช่น ไข่พะโล้ หมูพะโล้🐷
ส่วน เซ็งเป็ด 🦆 หมายถึง คำที่ใช้แสดงอาการเบื่ออย่างสุดขีด😩
..
เมื่อรู้จักความหมายของทั้งสองคำไปแล้ว คราวนี้เราจะไปย้อนดูตำนานการกำเนิด”พะโล้”พร้อมคำตอบว่าทำไม
มันถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับ”เซ็งเป็ด”..
..
ตำนานการกำเนิดพะโล้…มีว่า…


..
เทพเจ้าไผ่สุ้ยเอี้ย ซึ่งชาวจีนนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเพียรพยายามนั้น
เดิมทีท่านมีภรรยาที่ท่านรักมากชื่อว่า ไผ่เสี่ยวเมิ่น
นางไผ่เสี่ยวเมิ่น เป็นภรรยาที่ท่านไผ่สุ้ยเอี้ยรักสุดหัวใจ มีอะไรทำให้หมดทุกอย่าง คอยเฝ้าถนอมดูแล มิเคยขาดตกบกพร่อง
แต่ชะตาฟ้าไม่เป็นใจ เพราะนางดันแอบไปคบชู้สู่ชายกับฮัวซวี่เมิน ซึ่งมีอาชีพเป็นคนเลี้ยงเป็ด
เมื่อเจ้าพ่อไผ่สุ้ยเอี้ยรู้เข้า จากความรักสุดหัวใจจึงกลายเป็นความแค้นสุดกำลัง
เจ้าพ่อไผ่สุ้ยเอี้ยจึงใช้อิทธิฤิทธิ์สาปให้คนทั้งคู่สูญหายกลายร่างไปเป็นเป็ด
แล้วเอาเป็ดสองตัวนั้นมาฆ่า แล้วต้มกับเครื่องเทศ ใส่ซีอิ้วหวาน จิ้มน้ำจิ้มให้หายแค้นเสียเลย
..
..
เมื่อกาลเวลาผ่านไปนานวันเข้า..
คำร่ำลือเรื่องอิทธิฤทธิ์ของเทพเจ้าไผ่สุ้ยเอี้ยขจร ขจายไปทั่ว
มีคนมากราบไหว้บูชา บนบานสานกล่าวท่านมากมาย
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เมื่อสมหวังดังใจปรารถนาแล้ว ของที่ต้องนำมาถวายเพื่อเป็นการแก้บนเจ้าพ่อไผ่สุ้ยเอี้ยก็หนีไม่พ้นว่าต้องเป็น”เป็ดพะโล้”นั่นเอง
..
มาถึงตรงนี้ พอจะได้รู้ที่มาของการกำเนิด”พะโล้”กันพอสมควรแล้ว
แต่เอ….🤔
ก็ยังไม่เห็นมีตรงไหนบอกว่าทำไมพะโล้ถึงได้เกี่ยวข้องกับคำว่า”เซ็งเป็ด”เลยนี่นา


..
มาครับ มาต่อกันเลย😌✌️
เรื่องนี้มันก็มีอยู่ว่า …
ณ ศาลเจ้าพ่อไผ่สุ่ยเอี้ยข้างตรอกโรงเจแห่งหนึ่ง มีคนมากราบไหว้กันมากมายในแต่ละวัน
คนที่มากราบไหว้ พอสมหวังดังที่เคยบนบาน สานกล่าวไว้ ทุกคนต่างก็จะนำเป็ดพะโล้มาถวายเจ้าพ่อ
แต่ละวันจึงมีเป็ดพะโล้ที่มาแก้บนจำนวนมากมายหลายสิบตัว
จนเจ้าหน้าที่ในศาลเจ้าต้องหาทางระบาย(เป็ด)
พอดีว่าใกล้กับตรอกโรงเจ มีชุมชนแออัดหรือสลัมอยู่แห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่เห็นว่า น่าจะเป็นการดี ถ้าเราจะเอาเป็ดพะโล้เหล่านี้ไปให้คนในชุมชนเพื่อเป็นการสร้างกุศลแก่คนมาไหว้เจ้าพ่ออีกต่อหนึ่ง
เมื่อถึงเวลาหลังปิดศาลเจ้า จึงมีรถตู้นำเป็ดพะโล้ไปส่งที่ชุมชนแออัดทุกวัน
แรก ๆ ก็เป็นที่ถูกใจในความมีน้ำใจ ที่เจ้าหน้าที่ได้เอาเป็ดมาให้คนในชุมชนได้กินฟรี เป็นที่เอร็ด อร่อย
นานวันเข้า ลูกเล็กเด็กแดงที่กินแต่เป็ดพะโล้ทุกวันก็ชักเริ่มเบื่อ..😩
ทำให้ทุกเย็นค่ำ ที่มีรถจากศาลเจ้าขับเข้ามาส่งเป็ดพะโล้ จะมีเสียงบ่นเบา ๆออกมาจากชาวบ้านในสลัมว่า…”เป็ดพะโล้อีกแล้วเหรอ”….
โหย “เซ็งเป็ด”…😓


..
จบแล้วครับ…
พะโล้ กับ เซ็งเป็ด มันเกี่ยวกันตรงนี้นี่เอง555😂😂😂
..
เพิ่มเติมความรู้ให้นิดหนึ่งว่า
“พะโล้” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว มีความหมายคล้ายกับคำว่าจับฉ่าย คือหมายถึง มีอะไรก็ใส่ ๆ รวมกันไปในหม้อ
โดยเครื่องเทศหลัก ๆ ของพะโล้ประกอบด้วย ดอกโปยกั๊ก อบเชย และซีอิ๊วหวาน
สำหรับใครที่สงสัยว่า ทำไมภายหลังพะโล้ถึงไม่ได้มีแต่เป็ด แต่มีหมู มีไก่ มีไข่ มีห่าน เพิ่มมาด้วย..
ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ
ก็เพราะคนทำเริ่ม”เซ็งเป็ด”กันน่ะสิครับ
😂😂😂

 

อ่านต่อ…วิธีทำไข่พะโล้หมูสามชั้น

อ่านต่อ…ความเป็นมาก่อนที่จะเป็นพะโล้